ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1981 คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่อยู่ไกลจากชีวิตผู้คนมากนัก แต่นั่นล่ะ เรียกได้ว่าเป็นการทำนายอันแม่นยำของศิลปินอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติเยอรมันอย่าง Kraftwerk เมื่อพวกเขาปล่อยอัลบั้ม Computer World ที่มีเพลงเด่นอย่าง It’s More Fun to Compute/ Home Computer ออกมา
“ฉันเขียนโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ส่งสัญญาณตัวตนสู่โลกอนาคต…” คือเนื้อเพลงทั้งหมดของเพลงนี้ ที่ซึ่งในปี 2020 ในโอกาสที่หอศิลป์ Sprüth Magers Gallery ในเบอร์ลิน เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา Kraftwerk ก็ได้นำเพลงนี้ในเวอร์ชั่นแสดงสดจากอัลบั้ม 3-D The Catalogue (2017) มารีมิกซ์พร้อมตัดต่อวิดีโอใหม่ นำเสนอในเว็บไซต์ของหอศิลป์ดังกล่าว
Monika Sprüth ผู้ก่อตั้ง Sprüth Magers Gallery ร่วมกับ Philomene Magers ในปี 1998 พบกับ Ralf Hütter นักร้องนำและมือคีย์บอร์ด ในชั้นเรียนสถาปัตยกรรมที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ ช่วงทศวรรษ 1960s นั่นเป็นช่วงเวลาก่อนหน้าไม่นานที่ Ralf จะร่วมกับ Florian Schneider ก่อตั้งวง Organisation ก่อนจะกลายมาเป็น Kraftwerk ในปี 1970 ทั้งนี้ฟลอเรียน ชไนเดอร์ ผู้ประกาศลาออกจากวงไปในปี 2008 เพิ่งเสียชีวิตจากโรคมะเร็งในวันที่ 21 เมษายน 2020 ที่ผ่านมา
“ฉันจำไม่ได้แล้วว่าพบกับราล์ฟได้อย่างไร เราไปเที่ยวคลับที่เดียวกัน หรือเจอกันในนิทรรศการศิลปะสักงานที่ดุสเซลดอร์ฟ” สปรุตกล่าว กระนั้นหลังจากที่เธอร่วมกันก่อตั้งแกลเลอรี่ศิลปะ งานวิชวลเท่ๆ ประกอบเสียงดนตรีของ Kraftwerk ก็ไปปรากฏอยู่ในนิทรรศการของแกลเลอรี่แห่งนี้หลายต่อหลายชิ้น รวมไปถึง Museum of Modern Art ในนิวยอร์ก, Tate Modern ในลอนดอน และ Neue Nationalgalerie ในเบอร์ลิน
“จริงๆ ฉันก็ไม่มีความตั้งใจแต่แรกว่าจะเปิดแกลเลอรี่ แค่เป็นคนสนใจในวัฒนธรรมโดยเฉพาะศิลปะและดนตรีที่สร้างผลกระทบต่อความคิดใหม่ๆ มาตลอด กระทั่งราล์ฟและชไนเดอร์ก่อตั้งวงดนตรีของพวกเขา และกลายมาเป็นผู้บุกเบิกคนสำคัญในดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งยังส่งอิทธิพลมาจนถึงปัจจุบัน มันจึงไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรที่เมื่อเราทำแกลเลอรี่ เราจะมีส่วนแปรรูปดนตรีของพวกเขาให้กลายมาเป็นงานศิลปะ” สปรุตกล่าว
ก่อตั้งวงในปี 1970 Kraftwerk เป็นวงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์วงแรกๆ ของโลก และพวกเขายังได้เซ็นสัญญากับสังกัด EMI ซึ่งถือเป็นวงอิเล็กทรอนิกส์วงแรกที่ได้ออกอัลบั้มกับค่ายใหญ่ ก่อนจะสร้างรากฐานให้ดนตรีซินธ์ป๊อบในยุค 80s หลายเพลงของเขาได้ถูกศิลปินรุ่นหลังในแนวทางที่หลากหลาย นำมาคารวะด้วยการต่อยอดซาวด์จากต้นฉบับ อาทิ Trans-Europe Express ที่ศิลปินฮิปฮอปในยุคแรกอย่าง Afrika Bambaataa นำไปพัฒนาเป็นเพลง Planet Rock, วงเมทัลอย่าง Rammstein ก็นำเพลง Das Model มาคัฟเวอร์ ส่วน David Bowie ก็ให้เครดิตกับวงนี้เต็มๆ ระหว่างที่เขามาทำอัลบั้มที่เบอร์ลินในยุค 70s ขณะที่อัลบั้ม Computer World อัลบั้มนี้ก็ส่งอิทธิพลต่อวงการเพลง House และ Techno ที่เติบโตในชิคาโกยุค 80s ก่อนที่มันจะพัฒนามาเป็น EDM เช่นทุกวันนี้
ในปี 1975 ชไนเดอร์ผู้ล่วงลับเล่าถึงคอนเซปต์ของวงดนตรีของเขาขณะออกทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา “Die Mensch-Maschine คือเครื่องจักรมนุษย์ เราไม่ใช่วงดนตรี ผมคือผม และราล์ฟก็คือราล์ฟ ส่วน Kraftwerk เป็นเพียงพาหนะที่นำพาความคิดของพวกเรามาสู่คุณ”
ตามไปดูเวอร์ชั่นใหม่ของมิวสิควิดีโอ It’s More Fun to Compute/ Home Computer ได้ที่
https://spruethmagers.com/kraftwerk-homecomputer/
เพลย์ลิสต์รวบรวมเพลงที่ศิลปินได้แรงบันดาลใจมาจากงานทัศนศิลป์
จากยานอวกาศแห่งจิตวิญญาณของอาม่า สู่เรือโนอาห์แห่งความทรงจำของต่อลาภ ลาภเจริญสุข