เพราะเราไม่ได้ต้องตัดขาดจากสังคมอยู่คนเดียว BOTS จึงทำคอนเทนต์ให้กำลังใจผู้กำลังจมจ่อมในวาระของ social distancing ขณะนี้ ด้วยการแนะนำเหล่ามาสเตอร์ของความสันโดษรอบโลก วันนี้พบกับศิลปินผู้ทำให้ภาพพจน์ของความโดดเดี่ยวและสิ้นหวังมีมูลค่าเกือบ 120 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่งให้เขากลายเป็นตำนาน - เอ็ดเวิร์ด มุงค์
80 Years of Solitude
เอ็ดเวิร์ด มุงค์ (Edvard Munch)
ระยะเวลาของการโดดเดี่ยวของสังคม: ทั้งชีวิต
สถานที่: ทุกที่ที่เขาไปอยู่
สาเหตุ: เพราะเป็นเอ็ดเวิร์ด มุงค์
มีศิลปินดังบนโลกมากมายที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว และเผชิญความเศร้ามากกว่าสุข กระนั้นก็ไม่มีศิลปินคนใดสร้างภาพจำของความเศร้าทั้งในแง่มุมของการใช้ชีวิตและผลงานได้เท่ากับจิตรกรนอร์เวย์ นามว่า เอ็ดเวิร์ด มุงค์ (Edvard Munch) เจ้าของผลงาน The Scream (1893) อันลือลั่น เขาเกิดในปี 1863 ต้องพบเจอความกดดันและการสูญเสียตั้งแต่เด็ก แม่จากไปด้วยโรควัณโรคตอนเขาอายุห้าขวบ ต่อมาก็เป็นพี่สาว พ่อของเขาเจ้าอารมณ์และมีอาการป่วยทางจิต ส่วนเขาเป็นเด็กขี้โรคและต้องหยุดเรียนบ่อยๆ ซึ่งข้อหลังนี้ทำให้เขามีเวลาระหว่างนอนป่วย จมจ่อมอยู่กับงานศิลปะจนเติบโตมาเป็นศิลปิน
มุงค์สร้างชื่อจากผลงานในซีรีส์ The Sick Child (1885) ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจจากการจากไปของพี่สาว นั่นทำให้เขาได้ทุนไปเรียนศิลปะต่อที่ปารีส ก่อนจะสร้างผลงานต่อมาจนได้รับเชิญไปแสดงงานที่เบอร์ลินในปี 1891 ที่นั่นเขาเริ่มสร้างผลงานซีรีส์ The Frieze of Life ชุดจิตรกรรมที่สะท้อนชีวิตของมนุษย์ที่มีทั้งความรัก การพลัดพราก ความวิตก และความตาย ก่อนที่ในปี 1893 ระหว่างเขาเดินไปตามถนนยามพระอาทิตย์ตกในกรุงออสโล พระอาทิตย์เปลี่ยนเป็นสีแดงทอแสงบนท้องฟ้าริมทะเล จู่ๆ เขารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกรีดร้องดังสนั่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจากข้างใน นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเขียนภาพชายผู้กำลังกรีดร้องอยู่บนทางเดินริมน้ำ และซีรีส์ The Scream มีที่มาเช่นนั้น ซึ่งเขาทำออกมา 4 เวอร์ชั่น โดยเวอร์ชั่นที่เขียนด้วยสีพาสเทลในปี 1895 ถูกขายออกไปในราคา 119.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เวอร์ชั่นอื่นๆ เคยถูกโจรกรรมไปจากพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงด้วย
มุงค์ไม่ใช่คนโดดเดี่ยวเสียทีเดียว เขาเคยมีความรักกับหญิงสาว แต่กลัวการสร้างครอบครัวซึ่งอาจเป็นเพราะความทรงจำในวัยเด็ก ครั้งหนึ่งเมื่อคนรักเขาต้องการจะแต่งงาน เขาถึงกับหนีจากเธอมา เขาเป็นคนดื่มหนักและมีโรควิตกกังวลเป็นเพื่อน ปี 1908 เขาเกิดอาการประสาทหลอนจนแทบเป็นคนบ้า และต้องเข้ารับการรักษาเป็นเวลา 8 เดือน หลังจากนั้นสุขภาพจิตเขาดีขึ้น และดื่มน้อยลง ผลงานในช่วงบั้นปลายมีสีสันมากขึ้น และมองโลกในแง่ร้ายน้อยลง อย่างไรก็ดีศิลปินผู้นี้ก็ยังคงเลือกใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวจนจบชีวิตลงในปี 1944 ในวัย 80 ปี
สนามบินชาร์ล เดอ โกล (Charles de Gaulle Airport) ประเทศฝรั่งเศส คุณเมฮ์ราน คาริมี แนสเซรี ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานถึง 18 ปีแล้ว
เรียนรู้การกำเนิดภูมิทัศน์ของศิลปะร่วมสมัย หรือ Contemporary Art จากอดีต
7 สิ่งที่ ต้น-ศิริศักดิ์ ไชยเทศ อยากให้เข้าใจเสียใหม่เกี่ยวกับ LGBTQ