Nostalgia หรือการโหยหาและเล่าเรื่องในอดีตยังเป็นเทรนด์การผลิตคอนเทนต์ที่ไม่มีทางเก่าไปตามวัฎจักรการสร้างงานใหม่ๆ เพราะใครๆ ก็คิดถึงอดีตที่เคยเติบโตมาตั้งแต่ครั้งวัยเด็ก และมันก็คือรากฐานทางความคิดที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของเราในปัจจุบัน
ย้อนกลับไปในยุค 1980 ที่วัฒนธรรมในยุคนั้นแทบทุกองค์ประกอบทั้งการแต่งตัว ดนตรี งานศิลป์ ต่างมีอิทธิพลทางความคิดและยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานออกแบบและงานสร้างสรรค์ในหลายมิติสังคมจนถึงทุกวันนี้ สำหรับคนไทยเองอาจอินกับวัฒนธรรมจากญี่ปุ่นจ๋าๆ เพราะการ์ตูนทั้งหลายที่เข้าฉายในวัยที่เจนวายยังเป็นเด็กผมเกรียน หรือใครที่โตขึ้นมาหน่อยก็อาจได้รับอิทธิพลจากเทรนด์ Yuppie จากฝั่งตะวันตก
PIE International จึงรวบรวมนักวาดภาพประกอบจากสามชาติคือญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันกว่า 300 คนมาสรรค์สร้างภาพแบบเรโทรตามการตีความที่อยู่ในภาพใหญ่ของความเป็น New Retro คือการใช้ลายเส้นแบบการ์ตูนมังงะแบบอดีต แต่แทรกด้วยความเป็นสีพาสเทลที่ตัดด้วยความจัดจ้านของสีนีออน
หนังสือรวมภาพขนาด 192 หน้าจึงเต็มไปด้วยภาพฝันของวัยเด็กที่หลายคนเติบโตมา เสน่ห์ของลายเส้นเท่ๆ ที่เราเคยติดงอมแงมทั้งจากเล่มการ์ตูนเช่าหรือจอทีวีวันเสาร์ตอนเช้า กับลูกเล่นเฉพาะตัวที่ศิลปินใส่มา งานของศิลปินบางคนมีกลิ่นความเป็น Fiction จ๋าๆ เช่นการใส่ความลี้ลับและเรื่องเหนือจินตนาการแบบในสื่อภาพยนตร์ยุคนั้นได้นำเสนอออกมา (ถ้ายุคนี้เข้าท่าหน่อยก็ Stranger Things กับ Wonder Women 1984) ซึ่งศิลปินทุกคนที่ร่วมงานในหนังสือเล่มนี้ไม่มีใครทันเหตุการณ์จริงๆ ในยุค 80 ของญี่ปุ่นเลย แต่เพราะความเป็นตัวของตัวเองจากศิลปินแต่ละคน งานแต่ละงานจึงยังมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น แต่ก็มีความชัดในลายเส้นและการใช้สีที่ออกมาแล้วเราก็เชื่อ ว่ามันคืองาน New Retro จากคนรุ่นใหม่ที่สนุกอย่าบอกใครเลยล่ะ
ลองสั่งมาอ่านและเก็บเรฟเป็นแรงบันดาลใจได้ที่ Amazon นะ
บริททานีย์ ฮาวเวิร์ด สาวใต้เสียงเจ้าของรางวัลเพลงร็อคยอดเยี่ยม และอัลบั้มที่อุทิศให้พี่สาวผู้ล่วงลับ
ก่อนกลายมาเป็นสุภาพบุรุษสุดร็อกผู้ยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ เดฟ โกรห์ล ฟรอนท์แมนแห่ง Foo Fighters นั้นเคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก