ข้อดีไม่กี่ข้อในช่วงเวลาที่ประเทศต้องล็อคดาวน์จากโควิด-19 ที่ผ่านมา คือเทรนด์การก่อตั้งกลุ่มซื้อขายสินค้าในช่องทางออนไลน์เพื่อให้การจับจ่ายเป็นเรื่องง่าย ด้วยชื่อที่ลงท้ายแบบเดียวกันว่า ‘มาร์เก็ตเพลส’ (Marketplace)
รศ.ดร. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จากศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ก็ตั้งมาร์เก็ตเพลสกับเขาเช่นกัน หากแทนที่จะเป็นพื้นที่กลางสำหรับซื้อขายสินค้า Royalist Marketplace ของปวิน กลับเป็นตลาดแลกเปลี่ยนและเผยแพร่ข้อมูล - ข้อมูลที่ซึ่งผ่านมาหลายคนอยากรู้ แต่ทำได้แค่ซุบซิบกันผ่านกล่องข้อความ
ปวินก่อตั้งกลุ่มในวันที่ 16 เมษายน 2020 ผ่านไปเพียง 4 เดือน ล่าสุดมีสมาชิกมากถึง 1,066,085 ราย กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มเฟซบุ๊คที่มีสมาชิกมากที่สุดของประเทศ กระนั้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รัฐไทยก็กดดันให้เฟซบุ๊คบผู้ใช้แอคเคานท์ในประเทศไทยไม่ให้เข้าถึงมาร์เก็ตเพลสแห่งนี้
ทันทีที่ตลาดถูกปิด ปวินก็ตั้งตลาดขึ้นมาใหม่ในชื่อ ‘รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง’ เพียงวันแรกที่เปิด ก็มีผู้เข้าไปจับจองพื้นที่กันมากถึง 500,000 ราย และผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ ตัวเลขสมาชิกปัจจุบันของตลาดแห่งนี้อยู่ที่ 936,269 กำลังจะกลับมาแตะหลักล้านในไม่ช้า
อะไรทำให้ตลาดหลวงออนไลน์แห่งนี้ hot หนักหนา BOTS รวบรวม 5 เหตุผลแห่งความปัง และทำไมเราทุกคนจึงควรเปิดใจเข้าร่วมขบวนการรอยัลลิสต์…
มาร์เก็ตเพลส กันดูสักครั้ง
เพราะ Content is King!
ดังเช่นคำทำนายของ บิล เกสต์ ในปี 1996 ที่บอกไว้ว่า ‘Content is King’ โลกยุคปัจจุบันพิสูจน์ให้เราตระหนักคำกล่าวนี้อย่างลึกซึ่ง มีบริษัทเอกชนมากกว่า 70% ในโลกให้ความสนใจการทำกลยุทธ์ทางการตลาดผ่านออนไลน์คอนเทนต์ (content marketing strategy) ขณะที่การเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่าคู่แข่งก็เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้บริษัทหนึ่งบริษัทใดจะเอาชนะ หรือก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดของวงการ
ในขณะที่รัฐไทยพยายามทุกวิถีทางจะเซ็นเซอร์ข้อเท็จจริง และนำเสนอเพียงแต่ข้อมูลที่รัฐอยากนำเสนอ การเกิดขึ้นของ ‘ตลาดหลวง’ ก็ทำให้สมาชิกมีโอกาสเห็นข้อมูลได้รอบด้าน ข้อมูลที่เป็นเครื่องมือพื้นฐานประกอบการตัดสินใจไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ทั้งการลงทุนในธุรกิจ ไปจนถึงการเลือกที่จะทนอยู่กับวิถีชีวิตแบบเดิมๆ, ลุกขึ้นมาร่วมเปลี่ยนแปลง หรือย้ายประเทศไปอยู่ที่อื่นให้รู้แล้วรู้รอด ฯลฯ ดังที่บอก ยิ่งรู้มากก็ยิ่งได้เปรียบ เพราะ Content is King!
ได้อัพเดตเทรนด์แฟชั่นจากต่างประเทศ
ชั่ย, อาจารย์ปวินเป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ หากก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นคนมีเซ้นส์ด้านแฟชั่นที่เฉียบคมและจัดจ้าน ดังที่เราเห็นภาพถ่ายการแต่งกายของเขาในแต่ละวัน ยังไม่นับการแต่งกายแบบคอสเพลย์อันเปี่ยมอารมณ์ขัน… แต่นั่นก็เทียบไม่ได้แม้เพียงเสี้ยวกับสไตล์การแต่งตัวของหนึ่งในผู้เป็น talk of the town ในตลาดหลวงแห่งนี้ ชายผู้นำเทรนด์เสื้อแบบ crop top ไปเผยแพร่ในดินแดนหนาวเหน็บของยุโรป เหนือเทือกเขาแอลป์เพียงนิดเดียว
ในขณะที่สื่อด้านแฟชั่นใหญ่ๆ ของโลกเลือกนำเสนอแต่เทรนด์แฟชั่นแบบเมนสตรีมให้คนอ่านจนเปลี่ยนให้คนทั้งโลกดูเหมือนจะแต่งกายคล้ายกันไปหมด ตลาดหลวงแห่งนี้ก็เปิดโลกทัศน์ด้านแฟชั่นทางเลือก (alternative fashion) ให้แก่เหล่าสมาชิกได้อย่างน่าพรึงเพริดมากทีเดียว
เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น
แม้ประเทศเราจะมีสำนักข่าวทั้งออฟไลน์และออนไลน์มากเป็นร้อยๆ ราย แต่ปริมาณที่มากขนาดนั้นก็ดูเหมือนยังไม่สามารถครอบคลุมหรืออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ทั้งหมด อย่างเห็นได้ชัดคือเหตุการณ์ปิดถนนและเรือนจำชั่วคราวในวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา
แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นาน กระนั้นสื่อมวลชนที่ควรมีหน้าที่ตั้งคำถาม กลับเลือกที่จะไม่นำเสนอเหตุการณ์ผิดปกติและส่งผลกระทบต่อประชาชนนี้ออกสู่สาธารณะ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยคำถาม การแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในตลาดหลวง ก็ทำให้ใครหลายคนเข้าใจปริศนาอันดำมืด เพื่อจะพบว่าลำพังแค่เรื่องผัวๆ เมียๆ ในครอบครัว กลับส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนได้อย่างน่าเศร้านัก
มีหนังสือดีๆ ให้ดาวน์โหลดอ่านฟรีๆ
คลิกเข้าไปดูที่แถบด้านขวาของหน้าตลาด คุณอาจพบหนังสือหลายเล่มที่กำลังตามหา แต่ดันไม่สามารถหาซื้อได้จากร้านหนังสือไหนๆ ในประเทศนี้ แต่ที่นี่มีให้ดาวน์โหลดอ่านกันฟรีๆ หนังสือที่น่าสนใจซึ่งเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์สังคมไทยในปัจจุบัน ก็เช่น ‘นิติรัฐอภิสิทธิ์ และราชนิติธรรม’ ของธงชัย วินิจจะกูล, Siam Mapped A History of the Geo-body of A Nation ของผู้เขียนคนเดียวกัน, ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งสร้าง ของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, โฉมหน้าศักดินาไทย ของ จิตร ภูมิศักดิ์ ไปจนถึงหนังสือจากนักเขียนต่างประเทศอย่าง The Devil’s Discus โดย Rayne Kruger หรือ The King Never Smile โดย Paul Handley ฯลฯ ดีๆ ทั้งนั้น
ได้ฝึกการอดทนอดกลั้นกับความเฟียสและความเห็นต่าง
ต้องเข้าใจก่อนว่าด้วยสถานการณ์ที่ถูกกดทับและคุกคาม การออกมาพูดข้อเท็จจริงของประชาชนบางคนอาจหมายถึงการต้องถูกเตะเข้าคุกหรืออุ้มหาย เมื่อมีพื้นที่ให้ได้ระบาย บางครั้งข้อมูลก็มาพร้อมกับอารมณ์ร้าย, ความไม่สุภาพ ไปจนถึงความไม่ pc ฯลฯ อันนำมาซึ่งในบางช่วงเวลา การเข้ามาช้อปปิ้งในตลาดหลวงแห่งนี้ คุณอาจจะพบแต่อารมณ์ล้วน ที่ไม่อาจหยิบจับสาระอะไรได้
นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภายหลัง อาจารย์ปวิน-แอดมินเพียงคนเดียวของตลาดแห่งนี้ เลือกที่จะกรองข้อมูล ก่อนกดอนุญาตเผยแพร่ แต่นั่นก็ทำให้ชาวเน็ตหลายท่านตั้งคำถามว่าแทนที่พื้นที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่ ‘เปิด’ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น มันจะกลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ข้อมูลทั้งหมดถูกครอบงำโดยอาจารย์ปวินเพียงคนเดียวหรือไม่ (อย่างไรก็ตาม อาจารย์ปวินก็เพิ่งให้เหตุผลถึงนโยบายนี้ไปในโพสเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา)
กระนั้นก็ดี แม้ทางมาร์เก็ตเพลสจะมีนโยบายเช่นนั้น และแม้สมาชิกในกลุ่มจะมีจุดยืนทางการเมืองแบบเดียวกัน ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าหลายความเห็นของสมาชิกในกลุ่มนี้ (รวมถึงของปวิน) ก็อาจขัดแย้งทางด้านหลักการหรือรสนิยมส่วนตัว จนพาลไม่สบอารมณ์กันเอาได้ แต่นั่นล่ะ ในเมื่อเป้าหมายสูงสุดคือการขับเคลื่อนให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง การอดทนอดกลั้นกับความเห็นที่แตกต่างและการหาข้อมูลที่เป็นเหตุผลมาหักล้าง ถือเป็นธรรมชาติพื้นฐานที่สุดแล้วของประชาธิปไตย ไม่ใช่หรือ
และถึงอย่างนั้น หากคุณทนไม่ได้กับความเห็นต่างหรือความเฟียสของเพื่อนสมาชิก ง่ายที่สุด, คุณก็แค่กดปุ่ม leave group ออกจากตลาดหลวงแห่งนี้… ไม่มีใครบังคับหรือกระทั่งคุกคามการตัดสินใจของคุณ และชั่ย! นี่คือทางเลือกที่เป็นเหตุเป็นผลมากที่สุดของสังคมออนไลน์ ซึ่งเมื่อเทียบกับโลกแห่งความจริงที่รัฐไม่เพียงครอบงำ หากยังคุกคามคนที่เห็นต่างทางการเมือง ความเฟียสในตลาดแห่งนี้ ดูกระจอกลงไปเลย
MUSIC REVIEW อัลบั้มใหม่ของ Haim Women In Music Pt.III
เรื่องราวของแม่ ผ่านสิ่งเหนือธรรมชาติ, การคุกคามจากคนแปลกหน้าอย่างไร้เหตุและผล หรือความหลงในอำนาจ
5 เรื่องจริงของอัลบั้มชั้นดีที่ชื่อแย่ของเจ้าหญิงตลอดกาลแห่งวงการ J-Pop