มหกรรมดนตรีที่ยิ่งใหญ่และกังวานไกลถึงสวรรค์
เมื่อเดือนมีนาคม เทย์เลอร์ ฮอว์กินส์ มือกลองผู้เป็นกำลังสำคัญของ Foo Fighters จากโลกไปอย่างกะทันหันในวัยเพียง 50 ปี ท่ามกลางความตกใจและอาลัยของแฟนเพลงทั่วโลก
ร่วม 6 เดือนผ่านไป เดฟ โกรห์ล และชาวคณะ Foos (ซึ่งไม่ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตในนามวงเลยนับตั้งแต่เสียเพื่อน) จัดคอนเสิร์ต ‘Taylor Hawkins Tribute Concert’ เพื่อรำลึกและอำลาเทย์เลอร์พร้อมกับแฟนๆ เป็นครั้งสุดท้าย โดยจัดสองรอบ คือ 3 กันยายนที่เวมบลีย์ในลอนดอน และ 27 กันยายน ที่เคีย ฟอรั่มในแอลเอ
และเพราะเทย์เลอร์ ฮอว์กินส์ เป็นที่รักและนับถือของพี่ๆ น้องๆ ทั่วฟ้าวงการดนตรี บ้างเคยได้เขาไปช่วยอัดเพลง บ้างเคยชวนเขาไปแจมในโปรเจกต์พิเศษ หรือบ้างเคยชนแก้วปาร์ตี้กับเขาที่หลังเวที งานนี้จึงได้ศิลปินทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ และรุ่นใหญ่มาก มาร่วมแสดงอย่างคับคั่ง
จนแฟนเพลงหลายคนถึงกับคอมเมนต์ว่า “นี่มันไลน์อัพเทศกาลดนตรีในฝันชัดๆ” ซึ่งก็ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงแต่อย่างใด เอาแค่แมตช์แรกที่เวมบลีย์เมื่อคืน ซึ่งกินเวลานานถึง 6 ชั่วโมง อัดแน่นกว่า 50 เพลง ก็มีหลายๆ โชว์จากหลายๆ ศิลปินที่ดูแล้วต้องขยี้ตารัวๆ ว่าสิ่งที่เกิดตรงหน้าเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ภาพในจินตนาการ
“เทย์เลอร์ เทย์เลอร์ เทย์เลอร์...” ผู้ชมเรือนหมื่นพร้อมใจกันตะโกนซ้ำไปซ้ำมาลั่นสนามเวมบลีย์ พร้อมๆ กับการปรากฏตัวของสมาชิก Foo Fighters ในฐานะแม่งาน ก่อนจะเป็นเดฟ โกรห์ล ที่รับหน้าที่ประธานในพิธี กล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ
“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี คืนนี้…เรารวมกันที่นี่เพื่อเฉลิมฉลองให้กับชีวิต ดนตรี และความรัก ที่เรามีให้เพื่อนรัก เพื่อนร่วมวง และพี่น้องของพวกเรา เทย์เลอร์ ฮอว์กินส์” เดฟ โกรห์ล กล่าว
“เรารวมตัวกัน ทั้งครอบครัว เพื่อนสนิทของเขา ฮีโร่ทางดนตรีของเขา เพื่อสร้างค่ำคืนที่โคตรยิ่งใหญ่ให้กับบุคคลที่โคตรยิ่งใหญ่ ฉะนั้น จงร้อง เต้น หัวเราะ ร้องไห้ และกรีดร้อง ส่งเสียงให้แม่งกึกก้องที่สุด เพื่อให้ดังไปถึงเทย์เลอร์ และคุณก็รู้ดี…นี่จะเป็นค่ำคืนที่โคตรยาวนาน”
คอนเสิร์ต 6 ชั่วโมงก็ถือว่านานจริงอะไรจริง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าสำหรับแฟนเพลง ยืนยันด้วยไฮไลท์บางส่วนเหล่านี้ ที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามันเกิดขึ้นในงานเดียว
เริ่มจากเกสต์คนแรกของงาน ก็เป็น ‘ตัวเปิด’ ที่เหมาะสมกับคำนี้สุดๆ นั่นคือ เลียม กัลลาเกอร์ ที่ขึ้นมาประเดิมเวที ด้วยเพลง Rock ‘n’ Roll Star และ Live Forever โดยได้คณะ Foos เล่นเป็นแบ็คอัพ ซึ่งที่ตรงเก้าอี้กลอง ก็เป็นป๋าเดฟนี่แหละที่ไปนั่งประจำการแทนเทย์เลอร์
ตามด้วยซูเปอร์กรุ๊ปที่ขึ้นเวทีมาทริบิวต์เทย์เลอร์ ฮอว์กินส์พร้อมๆ กับเดวิด โบวี่ ประกอบด้วย จอช ฮอมม์ แห่ง Queens of the Stone Age, คริส แชนีย์ มือเบส Jane's Addiction, โอมาร์ ฮาคิม อดีตมือกลองโบวี่ และ ไนล์ รอดเจอร์ส รวมตัวกันเล่นเพลง Let’s Dance และ Modern Love จากอัลบั้ม Let’s Dance เมื่อปี 83 ของโบวี่ - เจ๋งมาก เก๋ามาก และโทนเสียงของฮอมม์ในเพลงโบวี่ยุคนี้ คือได้อยู่นะ
อีกหนึ่งตำนานที่ได้รับการทริบิวต์พร้อมกับเทย์เลอร์ คือเอ็ดดี้ แวน ฮาเลน เทพเจ้ากีตาร์ ซึ่งคนที่ขึ้นมาทริบิวต์ให้ก็คือลูกชายแท้ๆ ของเขา วูลฟ์กัง แวน ฮาเลน ซึ่งปกติจะเล่นเบส แต่วันนี้ขึ้นมาจับกีตาร์เหมือนพ่อ เล่นเพลง On Fire และ Hot for Teacher ของ Van Halen ร่วมกับเดฟ โกรห์ล ที่อาสาเล่นเบสให้ และ จัสติน ฮอว์กินส์ ฟรอนท์แมน The Darkness ในตำแหน่งร้องนำ - ฝีมือกีตาร์ของวูล์ฟกัง เอาเรื่องเลย
จอช ฮอมม์ ยังขึ้นเวทีมาอีกครั้งพร้อมกับเดฟ โกรห์ล และตำนานที่ยังมีลมหายใจ-จอห์น พอล โจนส์ แห่ง Led Zeppelin ขึ้นมาแบบนี้ก็รู้เลยว่าพวกเขากลับมาในนาม Them Crooked Vultures โคตรแบนด์เฉพาะกิจที่รียูเนียนกันในรอบ 12 ปีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เล่นกัน 3 เพลง คือ Goodbye Yellow Brick ของเอลตัน จอห์น, Gunman ของ Them Crooked Vultures เอง และ Long Slow Goodbye ของ Queens of the Stone Age
ถัดมาเป็นอีกหนึ่งโชว์ทริบิวต์ให้อีกหนึ่งตำนานที่ล่วงลับ นั่นคือ เจฟ บัคลีย์ โดยได้ ไวโอเล็ต โกรห์ล ลูกสาวของป๋าเดฟขึ้นมาร้องนำในเพลง Last Goodbye และ Grace ซึ่งหลังจากนั้น ไวโอเล็ตยังขึ้นเวทีมาอีกครั้งในเซสชั่นอะคูสติกร่วมกับ มาร์ค รอนสัน รอบนี้เธอได้ร้อง Valerie ในเวอร์ชันเอมี่ ไวน์เฮาส์ ซึ่งก็ทำได้ยอดเยี่ยม เรียกเสียงปรบมือได้กราวเลย
โชว์ต่อมา หยิกแขนตัวเองยังไงก็เจ็บ เพราะนี่คือเรื่องจริงที่ Foo Fighters ได้เล่นร่วมกับ ลาร์ส อุลริช แห่ง Metallica และ ไบรอัน จอห์นสัน นักร้องนำ AC/DC ในเพลง Back in Black กับ Let There Be Rock - ซึ่งเซอร์ไพรส์จริง และฟินมากกกก (ความเห็นส่วนตัว) แล้วถ้าวัดด้วยหูเปล่าๆ ก็น่าจะเป็นโชว์ที่เรียกเสียงเฮจากแฟนๆ ที่เวมบลีย์ได้ดังที่สุดแล้วล่ะ
ก่อนจะส่งไม้ต่อให้แม่งานเขารูดม่านคอนเสิร์ต เมื่อเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อเทย์เลอร์ ฮอว์กินส์ จะไม่มีวงรักที่สุดของเทย์เลอร์อย่าง Queen ขึ้นเวทีได้ไง สองสมาชิกราชาในนามราชินีอย่าง ไบรอัน เมย์ และ โรเจอร์ เทย์เลอร์ จึงขึ้นโชว์ตามนัด
ในเพลง We Will Rock You (ที่เอามาอะเรนจ์ดนตรีใหม่ ร้องโดย ลุค สปิลเลอร์ จาก The Struts), I'm In Love With My Car, Under Pressure, Somebody to Love และ Love of My Life ที่เหลือแค่เมย์ กีตาร์โปร่ง กับผู้ชมทั้งเวมบลีย์ - เมย์กล่าวว่าเขาเคยร้องเพลงนี้เพื่อกล่าวลาเพื่อนเก่า เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ วันนี้เขาจะขอใช้มันเพื่อลาเพื่อนอีกคนอย่างเทย์เลอร์ ฮอว์กินส์
และสุดท้าย Foo Fighters ขึ้นมาปิดฉากด้วยโชว์ที่นับเป็นครั้งแรกที่ไม่มีเทย์เลอร์ ฮอว์กินส์ นั่งอยู่ด้านหลังสุดตรงกลองชุด โชว์นี้พวกเขาจึงชวนมือกลองรับเชิญมากหน้าหลายตาขึ้นมาตีแทน
ไล่ตั้งแต่ จอช ฟรีซ (มือปืนรับจ้างที่ผ่านงานกับศิลปินใหญ่ๆ เพียบ) ในเพลง Times Like These กับ All My Life (เพลงแรก ถึงกับทำให้เดฟ โกรห์ลต้องเสียน้ำตาระหว่างร้อง ดูโชว์ของ Foos มาไม่รู้เท่าไร สาบานว่านี่คือครั้งแรกจริงๆ ที่เห็นเดฟสะอื้นจนเกือบร้องต่อไม่ได้), ทราวิส บาร์เกอร์ มือกลองบ้าพลังจาก Blink-182 ในเพลง The Pretender กับ Monkey Wrench, แนนดี้ บุเชลล์ สางน้อยมหัศจรรย์ที่เคยดวลกลองกับ Foos มาแล้ว ครั้งนี้เธอมารับหน้าที่ตีเพลง Learn to Fly
คั่นสั้นๆ ก่อนเข้าช่วงท้ายจริงๆ เดฟกล่าวเชิญอีกหนึ่งตำนานขึ้นมาร่วมอำลาเทย์เลอร์ นั่นคือเซอร์พอล แม็คคาร์ทนีย์ แห่ง The Beatles โดยท่านเซอร์ขึ้นมาพร้อมคริสซี่ ไฮด์ เพื่อเล่น Oh! Darling กับ Helter Skelter สองเพลงปีลึกของสี่เต่าทอง
และก็มาถึงสามเพลงสุดท้ายของคอนเสิร์ตจาก Foo Fighters เริ่มด้วย Aurora เพลงที่เทย์เลอร์ ฮอว์กินส์ รักที่สุด, My Hero ซึ่งได้ลูกชายวัย 16 ปีของเทย์เลอร์อย่าง เชน ฮอว์กินส์ ขึ้นมาหวดกลองแทนพ่อ ไอ้คำว่าลูกไม้หล่นใต้ต้นมันคือแบบนี้นี่เอง ท่วงท่าและน้ำหนักการตี ถอดแบบจากเทย์เลอร์มาเด๊ะๆ เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าอีกสัก 4-5 ปี ถ้าถึงวันนั้น Foos ยังไม่มีมือกลองประจำ ก็ยกตำแหน่งให้น้องเชนนี่แหละ ไม่ต้องมองคนอื่น
ก่อนจะบอกลาเพื่อไปพบกันใหม่ที่แอลเอช่วงปลายเดือน เดฟ โกรห์ล เลือกเล่น Everlong แบบอะคูสติกเป็นเพลงปิดคอนเสิร์ตที่เวมบลีย์ ซึ่งก็เป็นเพลงเดียวกับที่เทย์เลอร์ ฮอว์กินส์ ได้ตีกลองเป็นครั้งสุดท้ายร่วมกับ Foos ณ คอนเสิร์ต Lollapalooza Argentina 2022 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม
ยังมีอีกหลายโชว์ที่ได้รับเกียรติจากศิลปินเบอร์ใหญ่ กลาง และเล็ก ไม่ว่าจะเป็น Rush, สจ๊วร์ต โคปแลนด์ มือกลอง The Police, โจ วอลช์ จาก The Eagles มาในนามวง James Gang, Supergrass, Kesha, Pretenders หรือ The Coattail Riders
ความเห็นหนึ่งในทวิตเตอร์ว่า “มาดูคอนเสิร์ต Taylor Hawkins Tribute Concert แต่จู่ๆ มันดันกลายเป็นคอนเสิร์ต Avengers of Rock ‘n’ Roll ไปซะงั้น” คือใช่เลย อธิบายภาพในคืนนั้นได้ตรงเผงที่สุด
ซึ่งถ้าจะต้องมีการจัดงานเลี้ยงอำลาบุคคลที่รักในเสียงดนตรีจนอุทิศทั้งชีวิตให้กับมันอย่างเทย์เลอร์ ฮอว์กินส์ ก็ต้องจัดใหญ่จัดเต็มประมาณนี้แหละ ถึงจะสมศักดิ์ศรี และน่าจะเป็นงานอำลาที่ตรงใจเทย์เลอร์ที่สุด
ไม่ต้องโศกเศร้า ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์ ไม่ต้องมีน้ำตา ขอแค่ให้แฟนเพลงทุกคนได้มีความสุขกับเสียงเพลง ได้ร้องและเต้นไปพร้อมกับศิลปินที่พวกเขาชอบ แค่นั้นก็พอ
ก็คงต้องขอบคุณเทย์เลอร์ ฮอว์กินส์ ที่ทำให้ภาพฝันอันแสนงดงามนี้กลายเป็นจริง และทำให้พวกเราแฟนเพลงทุกคนมีความสุขกับเสียงดนตรี อย่างที่เทย์เลอร์ก็มีความสุขกับมันมาตลอดชีวิต
https://townsquare.media/site/295/files/2022/09/attachment-Liam-TH-tribute.jpg
https://variety.com/wp-content/uploads/2022/09/KevinMazur_Queen21.jpeg
https://www.rollingstone.com/wp-content/uploads/2022/09/TCV.jpg
https://supatainment.com/wp-content/uploads/2022/09/newFile-2.jpg
รวบรวมนักวาดภาพประกอบจากสามชาติคือญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันกว่า 300 คนมาสรรค์สร้างภาพแบบเรโทรตามการตีความที่อยู่ในภาพใหญ่ของความเป็น New Retro