BOTS
  • CATEGORIES
      Art & Design
      Lifestyle
      Warmwelcome
      BOTS News
      Coffee Break
      What if ?
      Trans_
      สนทนา
  • VIDEOS
      1591849850911800-Logo-DHB-01.png
      1591849934985394-Your-pen-Logo-02.png
  • logo
    logo
logo
  • CATEGORIES
    • Art & Design
    • Lifestyle
    • Warmwelcome
    • BOTS News
    • Coffee Break
    • What if ?
    • Trans_
    • สนทนา
  • VIDEO
    • DIE HARD BUSINESS
    • Your Pen
  • ABOUT ME
  • DARK MODE
The Ark of Torlarp Larpjaroensook
  • Art & Design ,  Lifestyle
  • Jul 07,2020

The Ark of Torlarp Larpjaroensook

เพราะเทคนิคศิลปะการปะติด (collage art) ใช้เรียกกับงานสองมิติอย่างภาพถ่ายหรือจิตรกรรม ต่อลาภ ลาภเจริญสุข จึงออกตัวว่า ไม่ถูกไวยากรณ์เสียทีเดียว หากจะเรียกผลงานส่วนใหญ่ของเขาที่นำเอาวัตถุสามมิติหลากชนิดมาต่อเติมเสริมร่าง ว่าเป็นประติมากรรมคอลลาจ (collage sculpture) กระนั้นเขาก็พึงใจจะอธิบายรูปแบบผลงานของเขาว่าอย่างนั้น

ไม่เฉพาะกับการนิยาม หากการไม่ยึดอยู่กับกรอบความเข้าใจเดิมๆ ยังส่งผลให้ผลงานของต่อลาภโดดเด่นและเป็นที่จดจำ แม้ว่าการนำวัตถุสำเร็จรูป (ready-made) และเศษวัสดุ (found object) มารื้อสร้างความหมาย ด้วยการประกอบขึ้นใหม่เป็นสิ่งอื่น จะไม่ใช่สิ่งใหม่ในวงการศิลปะ หากสิ่งของที่คนไทยอย่างเราคุ้นตาในชีวิตประจำวันที่ต่อลาภเลือกสรร ก็สร้าง ‘เนื้อหา’ เฉพาะตัวในผลงาน มากไปกว่าแค่สุนทรียะของเส้นสายและรูปทรงอย่างที่หลายคนเข้าใจ



เห็นได้ชัดผ่านผลงานล่าสุดของเขา Insignificant Meaningful ที่เพิ่งจัดแสดงครั้งแรกที่ Esplanade Concourse ประเทศสิงคโปร์ เมื่อกลางปี 2019 ที่ผ่านมา งานศิลปะติดตั้ง (installation) ที่ประกอบขึ้นจากข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่มีทั้งที่ยังคงเห็นอยู่ในปัจจุบันและที่เลือนลางไปจากยุคสมัย อาทิ ปิ่นโต, แจกัน, ที่ปักธูปไหว้พระ, กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ, จานชาม, เครื่องทองเหลือง, เซรามิก, โคมไฟ, ตู้กับข้าว, ตู้เสื้อผ้าโบราณ ฯลฯ รวมกันหลายร้อยชิ้น ครอบคลุมพื้นที่ด้านยาวกว่า 10 เมตร และสูงจรดเพดานของพื้นที่จัดแสดง



ประกอบขึ้นจากคำสองคำที่ให้ความหมายของคำว่า 'ความหมาย' ขัดแย้งกัน (insignificant – ไม่สำคัญ, meaningful – มีความหมาย) ศิลปินยังตั้งใจพร่าเลือนรูปทรงของผลงาน ระหว่างความเป็นประติมากรรมนามธรรม, วัตถุแทนพาหนะท่องอวกาศ ไปจนถึงความเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดล้ำอย่างน่าใคร่ครวญ

เพราะในขณะที่ต่อลาภนำไม้พายสามอันมาประกอบกันคล้ายใบพัด, ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางไม้สักที่ถูกจัดวางใหม่ให้คล้ายห้องโดยสาร, แท็งก์น้ำที่ทำจากทองเหลืองที่ดูคล้ายห้องเครื่อง ที่ยังทำหน้าที่เป็นฐานให้สายไฟระโยงระยางหลายร้อยเส้น ต่อเชื่อมกับแจกันและเครื่องเซรามิกที่ประกอบกันดูคล้ายจรวดบริวารกว่าร้อยชิ้นแขวนลอยอยู่เบื้องบน หากดูเหมือนว่าศิลปินตั้งใจให้รูปฟอร์มของโครงสร้างหลักในงานชิ้นนี้เป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งมีชีวิตที่มีศีรษะกลมโต คอยาว มีสี่ขา และส่วนหางของมันยังแตกออกเป็นสาขาระโยงระยาง ดูคล้ายจะยืดหดได้อย่างไม่สิ้นสุด (อย่างน้อยที่สุดก็ยืดออกจนแทบจะถมเต็มมวลอากาศส่วนบนของห้อง)

กระนั้น ไม่ว่าคุณจะมองว่าสิ่งนี้คืออะไร สารที่ศิลปินตั้งใจจะสื่อก็ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะหาใช่เพียงการนำข้าวของเครื่องใช้มาประกอบร่างเพื่อสร้างความหมายใหม่ แต่สถานะดั้งเดิมของสิ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง ลวดลายหน้าที่การใช้งาน และที่สำคัญคือความทรงจำร่วมของผู้คนที่เคยมีประสบการณ์ต่อข้าวของเครื่องใช้เหล่านั้นต่างหาก (กระติกน้ำเก็บอุณหภูมิที่ใครสักคนต้องหมุนเปิดเพื่อรินน้ำลงถ้วยเซรามิกสำหรับดื่มในทุกเช้า, ชั้นวางที่คุณเคยใช้อวดโชว์ประกาศนียบัตร รูปถ่าย หรือของที่ระลึกจากการไปเที่ยว, ตู้ไม้สักที่ทุกๆ ครอบครัวเคยใช้เก็บเสื้อผ้าที่สวมใส่ในชีวิตประจำวัน ฯลฯ) คือเนื้อหาสำคัญที่ต่อลาภต้องการจะนำเสนอผ่านผลงานศิลปะที่ถูกตั้งชื่อให้เกิดความขัดแย้งกันทางความหมายชิ้นนี้

แต่ก่อนจะพูดถึงความหมายของผลงานไปไกลกว่านี้ ถือเป็นความจำเป็นยิ่ง ที่จะต้องกลับไปสำรวจผลงานชิ้นก่อนหน้าของศิลปิน ค่าที่ว่านี่คือผลงานที่ต่อเนื่องกันทั้ง รูปแบบของชิ้นงานและแรงบันดาลใจอันใกล้เคียง

Spiritual Spaceship คือชื่อผลงานดังกล่าว ต่อลาภสร้างสรรค์ผลงานนี้เพื่อจัดแสดงในมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ‘บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018’ (Bangkok Art Biennale 2018) เมื่อปีที่ผ่านมา ผลงานอันประกอบขึ้นจากวัตถุสำเร็จรูปชนิดเดียวกับที่เขาใช้ใน Insignificant Meaningful โดย Spiritual Spaceship สื่อสารเป้าหมายของรูปทรงโดยตรงว่าเป็น 'ยานอวกาศทางจิตวิญญาณ' ซึ่งศิลปินได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำในวัยเด็กที่เขาอาศัยอยู่กับอาม่าในบ้านแพริมคลองของจังหวัดอยุธยา ช่วงเวลาที่เขาสนุกสนานกับค่ำคืนของเทศกาลไหว้พระจันทร์ ในยุคสมัยเดียวกับที่องค์การนาซ่าส่งยานขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์

ต่อลาภตั้งใจให้ Spiritual Spaceship ยั่วล้อห้วงเวลาดังกล่าว ผ่านการประกอบสร้างข้าวของเครื่องใช้ที่เขาคุ้นเคยในวัยเด็ก รวมไปถึงแจกันปักดอกไม้และที่ปักธูปสำหรับไหว้เจ้า (อุปกรณ์สำคัญที่คล้ายเป็น 'สื่อกลาง' ของพิธีไหว้พระจันทร์) ขณะที่ยานอวกาศของนาซ่าพยายามค้นหาสิ่งที่อยู่ไกลออกไปนอกโลก ยานของต่อลาภนำเราเดินทางไปค้นหาดวงจันทร์ตามความเชื่อแต่โบราณ พร้อมกับการกลับไปสำรวจสิ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดในความทรงจำของศิลปิน

ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า Insignificant Meaningful คือร่างที่เติบใหญ่ของ Spiritual Spaceship ไม่เฉพาะโครงสร้างและองคาพยพที่ขยายขึ้นและแตกสาขาออก หากสารเบื้องหลังผลงานยังกว้างไกลและมีมิติที่ลึกขึ้น อย่างเห็นได้ชัดคือการที่ศิลปินเลือกใช้ข้าวของเครื่องใช้ชนิดเดียวกันหรือใกล้เคียงกันแต่หลากหลายมากขึ้น เพื่อสะท้อนเนื้อหาที่ใหญ่กว่า อย่างการเคลื่อนย้ายของผู้คนหลากชาติพันธุ์ และการเปลี่ยนผ่านจากคนพลัดถิ่นสู่คนท้องถิ่นของประเทศสิงคโปร์ (ต่อลาภผลิตงานชุดล่าสุดนี้ จาก commission ที่เขาต้องผลิตงาน installation เพื่อจัดแสดงใน Esplanade Concourse ประเทศสิงคโปร์) ศิลปินพบว่าข้าวของเครื่องใช้หลายชิ้นที่พบที่สิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็นคนจีน มาเลย์ อินเดีย หรือเปอรานากันที่อาศัยร่วมกันบนเกาะแห่งนี้ ต่างมีลักษณะหรือลวดลายที่่ทั้งมีอัตลักษณ์เฉพาะของตัวเอง หากก็มีลักษณะร่วมกันอย่างเป็นสากล

ไม่เพียงเท่านั้น ข้าวของหลายชิ้นก็ทำให้เขาย้อนกลับไปคิดถึงข้าวของในบ้านแพริมน้ำของอาม่าที่เขาอาศัยในวัยเด็ก ดังที่ศิลปินได้กล่าวไว้

“อาม่าเล่าให้ฟังว่าได้อพยพจากจีนเมื่อกว่า 100 ปีก่อน ล่องเรือผ่านมลายู แวะพักที่ปีนัง ก่อนจะลงหลักปักฐานที่อยุธยา ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับคนจีนอีกหลายล้านคนที่จากบ้านเกิดมา พวกเขาได้นำสิ่งของเครื่องใช้ประจำวันติดตัวมาด้วย สิ่งของที่เป็นเครื่องสะท้อนรากเหง้าของพวกเขา ซึ่งไม่เฉพาะคนจีน หากคนอินเดียที่อพยพเข้ามาในภูมิภาคนี้ คนมาเลย์ที่แต่งงานกับคนจีนจนเกิดเป็นคนเปอรานากัน และอีกหลากหลายชาติพันธุ์ ก็ต่างมีสิ่งของเก่าเก็บที่บอกถึงรากกำเนิด และสิ่งของประจำวันที่บ่งชี้ถึงชีวิตในปัจจุบัน ผลงานชิ้นนี้ (Insignificant Meaningful) จึงเปรียบเป็นภาพแทนของการรวมความหลากหลายของผู้คนที่แตกต่างกัน โยงอดีตเข้ากับปัจจุบัน ผ่านจุดเชื่อมต่อของเวลา”



สัญลักษณ์อีกอย่างที่น่าสนใจ คือการประกอบเข้าของข้าวของชิ้นเครื่องใช้เล็กๆ เข้ากันเป็นวัตถุชิ้นใหญ่ เชื่อมต่อเข้ากับวัตถุชิ้นที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีวัตถุใดวางอยู่เพียงลำพังเลย (จากถ้วยน้ำชา, จานชาม, แจกัน สู่หม้อหุงข้าว, ชั้นวางของ หรือตู้เสื้อผ้า) โดยสายไฟอันเกี่ยวพันและระโยงระยาง และโครงสร้างเหล็กที่ทำหน้าที่คล้าย 'กระดูก' ที่เชื่อมอวัยวะทุกอย่างเข้าด้วยกัน ยังสะท้อนให้เห็นถึงภูมิทัศน์รวมของสังคมในอีกมิติ ที่ซึ่งวัตถุชิ้นเล็กเปรียบแทนได้ดังปัจเจกบุคคลหรือ 'ชีวิตหนึ่งชีวิต' ที่รวมเข้ากับชีวิตอื่นจนเกิดเป็นกลุ่มก้อนชุมชน ชุมชนหลายชุมชนต่อเชื่อมกันเป็นหมู่บ้าน เป็นอำเภอ เป็นจังหวัด และกลายเป็นรัฐ รัฐหนึ่งในภาพใหญ่

เช่นนั้นแล้ว ผลงานชิ้นนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการบอกเล่าถึงความสัมพันธ์ของสิ่งของกับกาลเวลา (ยานพาหนะที่หันหัวพุ่งไปยังอนาคตข้างหน้า ด้วยการประกอบขึ้นจากวัตถุที่ทำให้เราย้อนคิดถึงอดีตที่อยู่ข้างหลัง) หรือความสัมพันธ์ของการให้ความหมายต่อสิ่งที่ถูกยุคสมัยมองข้ามหรือลืมเลือนความสำคัญ (การนำสิ่งของในยุคก่อนมาจัดแสดงในบริบทใหม่) แต่ยังสื่อสารถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่ร่วมกันสร้างพลวัตรทางสังคมไปพร้อมกันด้วย

ในขณะที่ Marcel Duchamp นำโถปัสสาวะ (Fountain, 1917) หรือล้อจักรยานมาวางตั้งบนฐาน (Bicycle Wheel, 1913) เพื่อท้าทายนิยาม ค่านิยม และความสูงส่งของศิลปะในต้นศตวรรษที่ 20, Jean Tinguely (1925-1991) นำข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและเศษเหล็กมาประกอบสร้างเป็นประติมากรรมกึ่งเครื่องจักร เย้ยหยันความไว้วางใจของผู้คนต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่  หรือที่ Subodh Gupta ได้นำภาชนะสแตนเลสหลายพันชิ้นที่คุ้นตาอยู่่ในห้องครัวของคนอินเดีย มาประกอบกันเป็นประติมากรรมรูปทรงของก้อนเมฆที่ถูกระเบิด (Line of Control, 2008) สูงกว่า 10 เมตร เพื่อสะท้อนผลพวงจากสงครามและสดุดีความสงบสุข

ต่อลาภ ลาภเจริญสุข ก็ได้ใช้เวลาตลอดทศวรรษ รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยและผู้คนในภูมิภาคอุษาคเนย์ (ซึ่งเขามองว่าเป็นสิ่งของที่สะท้อนถึงตัวตนของชาติพันธุ์ ได้ชัดเจนกว่าโบราณวัตถุทรงค่าที่จัดแสดงอยู่ตามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ) นำมาต่อดยอดเป็นชิ้นงานอันหลากแบบและหลายความหมาย หากมีลักษณะร่วมอย่างเห็นได้ชัดอย่างหนึ่ง จนกลายเป็นที่ทางและจุดยืนในโลกศิลปะของเขา นั่นคือการสร้างเครื่องบันทึกห้วงเวลาและความทรงจำร่วมของผู้คน – พิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์แห่งข้าวของของชาวบ้าน ในรูปแบบของงานศิลปะหลากรูปฟอร์ม

โดยเฉพาะกับ Insignificant Meaningful หนึ่งในผลงานขนาดใหญ่ที่สุดที่ต่อลาภเคยสร้างสรรค์ บางคนอาจมองเห็นมันเป็นเครื่องจักร เป็นพาหนะ หรือสัตว์ประหลาด กระนั้นผ่าน 'สาร' ที่ทั้งเปิดเผยให้เห็นอย่างชัดแจ้งและบางส่วนที่ซ่อนเร้น ผมกลับมองงานติดตั้งชิ้นนี้ไม่ต่างจากเรือโนอาห์ในพระปฐมกาลของคริสต์ศาสนา



คู่ขนานไปกับตำนานว่าด้วยเรือโนอาห์ถูกสร้างเพื่อบรรทุกสรรพสัตว์ให้รอดชีวิตจากน้ำท่วมโลก ต่อลาภก็สร้างเรือโนอาห์ในแบบฉบับของเขา บรรจุความทรงจำของอดีตล่องกระแสธารของโลกปัจจุบันสู่อนาคต ที่ซึ่งนับวันเทคโนโลยีจะทำให้ผู้คนมุ่งแต่สะสมเรื่องเล่าใหม่ๆ พร้อมกับค่อยๆ ลืมเลือนคุณค่าในเรื่องเล่าเก่าๆ ของผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ก่อนหน้าเราไปแล้วสิ้น

Insignificant Meaningful จัดแสดงครั้งแรกในระหว่างวันที่ 19 เมษายน – 14 กรกฎาคม 2019 ที่ Esplanade Concourse ประเทศสิงคโปร์ และครั้งต่อมาที่ C-Lab (Taiwan Contemporary Culture Lab) ระหว่างวันที่ 5 ตุลาคม – 12 ธันวาคม 2019


Photo by Gallery Seescape www.galleryseescape.co/


RELATED CONTENTS

Listen to the Arts : ชวนฟังเพลย์ลิสต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานศิลปะ

Listen to the Arts : ชวนฟังเพลย์ลิสต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานศิลปะ

เพลย์ลิสต์รวบรวมเพลงที่ศิลปินได้แรงบันดาลใจมาจากงานทัศนศิลป์

  • Art & Design
    Lifestyle
  • Jun 12,2020

Untitled Simple Beauty ชุดภาพถ่ายมินิมัลของศิลปินผู้สนุกกับงานแม็กซิมั่ม

Untitled Simple Beauty ชุดภาพถ่ายมินิมัลของศิลปินผู้สนุกกับงานแม็กซิมั่ม

นิทรรศการUntitled Simple Beauty ภาพถ่ายชุดเพื่อการบำบัดของพรเทพ จิตต์ผ่อง ศิลปินผู้ทำงานจิตรกรรมสื่อผสม ภาพวาด และภาพพิมพ์แบบแม็กซิมั่ม (Maximum)

  • Art & Design
    Lifestyle
  • Jun 29,2020

KRAFTWERK ปัดฝุ่นซิงเกิ้ลดังในปี 1981 สู่งานศิลปะมอบให้แกลเลอรี่ของเพื่อน

KRAFTWERK ปัดฝุ่นซิงเกิ้ลดังในปี 1981 สู่งานศิลปะมอบให้แกลเลอรี่ของเพื่อน

It’s More Fun to Compute/ Home Computer

  • Art & Design
    Lifestyle
  • Jul 02,2020

logo
  • categories
  • videos
  • about me
Copyright © 2020 BOTS. All Rights Reserved. Powered by I GEAR GEEK