ทุกวันที่ 1 มิถุนายน ของทุกปี พรเทพ จิตต์ผ่อง จะฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิดของเขาด้วยการจัดนิทรรศการเดี่ยว
หากไม่ใช่แกลเลอรี่สักแห่งในกรุงเทพฯ ก็เป็นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน (เมืองที่เขาเคยย้ายไปพำนักนับสิบปี) หรือเชียงใหม่ เมืองล่าสุดที่ศิลปินผู้นี้ลงหลัก กระนั้นปีล่าสุดที่ซึ่งสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ก็ส่งผลกระทบต่อแผนการประจำปีของเขา เนื่องจากแกลเลอรี่ทุกแห่งจำเป็นต้องปิดทำการชั่วคราว และนั่นทำให้เขาตัดสินใจจัดนิทรรศการ Untitled Simple Beauty ในรูปแบบออนไลน์ ไปพร้อมกับแขวนผลงานไว้บนผนังสตูดิโอซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับบ้านพักอาศัยของเขาในชุมชนดอนแก้ว ไม่ไกลจากศาลากลางเชียงใหม่ และเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาชมเป็นการส่วนตัว
ไม่เพียงการเปลี่ยนสู่ความปกติใหม่ในการชมศิลปะ (ส่งลิงค์ให้ชมทางออนไลน์แทนการไปชมที่แกลเลอรี่จริง) ความน่าสนใจอีกสิ่งของนิทรรศการประจำปีนี้ของพรเทพ คือนี่เป็นครั้งแรกที่เขานำเสนอผลงานศิลปะด้วยภาพถ่าย หนำซ้ำยังเป็นภาพถ่ายสตรีทไลฟ์สไตล์มินิมัลที่ ‘น้อย’ เสียจน หากใครติดตามผลงานของพรเทพ ก็อาจมีขยี้ตาและย้อนถาม นี่ใช่ผลงานของเขาจริงหรือ?
สร้างชื่อจากผลงานภาพประกอบให้กับนิตยสารชั้นนำในกรุงเทพฯ ก่อนย้ายมาอยู่ปายทำซีรีส์ Human Blue ภาพบุคคลที่ศิลปินนิยามมันว่า Funny Portrait ผลงานของพรเทพครอบคลุมงานจิตรกรรม จิตรกรรมสื่อผสม ภาพวาด และภาพพิมพ์ ที่ซึ่งใครหลายคนจดจำในความสนุก เปี่ยมจินตนาการ และหลายชิ้นก็มีความเยอะตามนิยามของแม็กซิมั่ม (Maximum) เช่น งานจิตรกรรมล่าสุดในซีรีส์ The Seasons ที่เป็นจิตรกรรมแนว abstract อันหนาแน่นไปด้วยเฉดสี ซึ่งเจ้าตัวทำผลงานชุดนี้ไปพร้อมกับชุดภาพถ่ายดังกล่าว
“ภาพถ่ายชุดนี้เป็นการบำบัด เพราะระหว่างที่ทำงานนี้ ผมทำงานจิตรกรรมที่ใช้พลังงานและองค์ประกอบที่ค่อนข้างเยอะ เหมือนเราใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในพื้นที่แออัด ก็อยากเบรกออกมาอยู่ในพื้นที่ว่างๆ หรือที่ที่ปลอดโปร่ง มีองค์ประกอบน้อยๆ บ้าง” พรเทพ กล่าว ก่อนจะย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของงานในซีรีส์นี้ ระหว่างทริปปั่นจักรยานทางไกลลำปาง-กรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้ว
“ผมพกกล้องติดตัวไปด้วย พอเห็นอะไรน่าสนใจก็จะจอดและลงมาถ่ายรูป มีภาพที่ผมเห็นบ่อยๆ ในทุกวันตลอดการเดินทาง คือภาพของนกที่บินลงมาเกาะสายไฟ และผมก็ถ่ายภาพอย่างนี้ทุกวัน จนพอจบทริป ผมเปิดภาพมาดู ก็เห็นถึงที่ว่างในภาพระหว่างท้องฟ้า นก และสายไฟ รวมถึงระยะที่ผมยืนอยู่ จากนั้นก็เริ่มมอง object ต่างรอบตัวเหมือนที่ผมมองนก ก็เลยเริ่มเดินตามถ่ายสิ่งที่เรามองเห็นในชีวิตประจำวันด้วยมุมมองเช่นนั้น”
จากบนเบาะจักรยาน พรเทพกลับมาใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ และเจียดเวลาวันละอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงในการเดินเท้าตามถ่ายรูปสิ่งที่เห็นด้วยมุมมองเช่นนั้น เขาบอกว่าเขายังได้แรงบันดาลใจมาจาก พิชัย แก้ววิชิต วินมอเตอร์ไซค์ผู้มีงานอดิเรกคือการถ่ายรูปสตรีทแนวมินิมัลใน Instagram ซึ่งมีจริตในการมองทัศนียภาพของเมืองแบบเดียวกับเขา รวมถึงหนังสือ Timeless Simplicity: Creative Living in a a Consumer Society (ความเรียบง่ายไร้กาลเวลา) ของ John Lane ที่ชวนคนอ่านมองหา ใช้ชีวิต และดื่มด่ำกับความเรียบง่ายท่ามกลางยุคสมัยที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“ผมมักตั้งคำถามกับตัวเองในฐานะที่เป็นคนอยู่ไม่ค่อยติดที่ คำถามถึงความมั่นคงซึ่งขัดแย้งไปกับความเบื่อหน่ายต่อวัฎจักรซ้ำเดิมของมนุษย์ หรือกับบรรยากาศเดิมๆ ที่มีส่วนให้ผมตัดสินใจโยกย้ายไปตามที่ต่างๆ อยู่เสมอ
“การถ่ายรูปซีรีส์นี้จึงไม่ใช่แค่การบำบัดจากชีวิตประจำวันที่ผมกำลังทำงานศิลปะอีกแบบ แต่เป็นการบำบัดมุมมองของตัวเองด้วย การมองไปยังความน่าเบื่อหน่ายเหล่านั้นด้วยมุมที่คนอื่นอาจไม่มอง หาคุณค่าจากภาพซ้ำๆ เดิมๆ คล้ายกับการมองความธรรมดาในตัวของผมเอง ความธรรมดาที่มอบคุณค่าและทำให้ชีวิตมีความหมาย” พรเทพ กล่าว
แม้นิทรรศการ Untitled Simple Beauty จะปิดม่านลงไปแล้วเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา หาก BOTs ก็ได้รับการอนุเคราะห์จากศิลปิน นำภาพถ่ายในนิทรรศการมาเผยแพร่อีกครั้งทางช่องทางนี้ ทั้งนี้ผู้อ่านสามารถติดตามผลงานอื่นๆ ของพรเทพได้ทาง Facebook : Pawnthep Chitphong
It’s More Fun to Compute/ Home Computer
จากยานอวกาศแห่งจิตวิญญาณของอาม่า สู่เรือโนอาห์แห่งความทรงจำของต่อลาภ ลาภเจริญสุข